อึ้ง! พบสารเคมีตกค้าง เกินมาตรฐานในผัก-ผลไม้
อึ้ง!!
พบสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐาน 64% ถั่วฝักยาว
คะน้า ใบบัวบก กะเพรา พริกแดง องุ่น แก้วมังกร
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช
หรือไทยแพน (Thai-PAN) โดยนางสาวปรกชล อู๋ทรัพย์
ผู้ประสานงานได้แถลงผลการเฝ้าระวังผักและผลไม้ซึ่งไทยแพนดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่
5 พบว่า จากการเก็บตัวอย่างผัก และผลไม้จากทั่วประเทศจำนวน 150
ตัวอย่างเมื่อเดือนสิงหาคม 2560 ครอบคลุม..
-ผักยอดนิยม 5
ชนิด ได้แก่..ถั่วฝักยาว คะน้า พริกแดง กะเพรา และกะหล่ำปลี
-ผักพื้นบ้านยอดฮิต 5 ชนิด ได้แก่ ใบบัวบก
ชะอม ตำลึง และสายบัว
-และผลไม้ 6 ชนิด ได้แก่ องุ่น แก้วมังกร
มะละกอ กล้วย มะพร้าว สับปะรด
โดยตรวจครอบคลุมตลาดจำนวน 9 ตลาดในจังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น ปทุมธานี ราชบุรี
และสงขลา รวมทั้งจากห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ 3 ห้าง
และซุปเปอร์มาร์เก็ต 4 แห่ง
พบว่าโดยภาพรวมมีสารพิษปนเปื้อนในผักและผลไม้เกินมาตรฐานถึง 46% แต่ก็ดีกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย
ทั้งนี้เป็นปีแรกที่ไทยแพน
สุ่มตรวจผักพื้นบ้านยอดนิยมเพื่อเปรียบเทียบกับผักทั่วไป และผลไม้พบว่า
ผักยอดนิยมทั่วไปมีสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐาน 64% ผักพื้นบ้านยอดนิยม 43% และผลไม้ 33% ตามลำดับ
โดยในผักผลไม้ที่มีความเสี่ยงสูงได้แก่..ถั่วฝักยาว
คะน้า ใบบัวบก กะเพรา พริกแดง องุ่น แก้วมังกร เพราะพบการตกค้างเกินมาตรฐานตั้งแต่
7-9 ตัวอย่างจาก 10 ตัวอย่าง
"อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าเป็นกังวลมากที่สุดคือไทยแพนพบว่ามีสารเคมีกำจัดวัชพืชหรือยาฆ่าหญ้าตกค้างในผักและผลไม้ในระดับสูงถึง
55% จากจำนวนตัวอย่างที่ส่งตรวจทั้งหมด 76 ตัวอย่าง ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก
เพราะเท่าที่ผ่านมาแทบไม่เคยมีการสุ่มตรวจหาสารพิษกลุ่มนี้อย่างจริงจังมาก่อนเลย
โดยผลการตรวจพบพาราควอตตกค้างในระดับเกินมาตรฐานสูงถึง 38 ตัวอย่างจาก
76 ตัวอย่างที่ส่งตรวจ รองลงมาคือไกลโฟเซต ตรวจพบ 6 ตัวอย่าง และอะทราซีน 4 ตัวอย่าง"
นางสาวกิ่งกร นรินทรกุล ณ
อยุธยา ผู้ประสานงานโครงการรณรงค์ "กินเปลี่ยนโลก" มูลนิธิชีววิถี
ซึ่งเข้าร่วมการเฝ้าระวังครั้งนี้ร่วมกับเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกและเครือข่ายความมั่นคงทางอาหารใน
5 จังหวัด กล่าวว่า
"ก่อนการแถลงครั้งนี้
ไทยแพนได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง
พร้อมได้มอบข้อมูลทั้งหมดให้มีการดำเนินการตามขั้นตอนและกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน
หน่วยงานที่มาร่วมหารือ ได้แก่ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)
กรมวิชาการเกษตร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักอาหาร คณะกรรมการอาหารและยา
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
(บก.ปคบ.)"
ทั้งนี้หน่วยงานต่าง ๆ
และผู้ประกอบการก็จะได้นำข้อมูลระบุแหล่งที่มาแหล่งผลิตและแหล่งจำหน่ายที่เป็นปัญหาไปดำเนินการแก้ปัญหาต่อไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพบว่ายังมีการตรวจพบสารที่แบนและไม่อนุญาตให้ขึ้นทะเบียนแล้ว
เช่น เมทามิโดฟอส อีพีเอ็น คาร์โบฟูราน และเมโทมิล
รวมทั้งมีการพบว่าผักผลไม้ราคาแพงซึ่งประทับตรารับรองต่างๆ
ยังมีสารพิษตกค้างเกินมาตรฐานในระดับสูงกว่าที่จะยอมรับได้
"ในส่วนของผักพื้นบ้านยอดฮิต
ผลการตรวจชี้ว่า
"ขณะนี้การเพาะปลูกผักพื้นบ้านยอดนิยมที่เป็นที่ต้องการของตลาดจำนวนมาก
ก็มีการใช้สารเคมีเข้มข้นไม่น้อยเลย"
"ผลการตรวจครั้งนี้ยังเปิดเผยความจริง
และชี้ให้เห็นว่าปัญหาของยาฆ่าหญ้าได้กลายเป็นปัญหาระดับชาติที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคทุกคนอย่างไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป"
"นอกเหนือจากผลักดันให้หน่วยงานรัฐและเอกชนแก้ปัญหาข้างต้นแล้ว
เครือข่ายที่ติดตามปัญหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้ประสานงานกับองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค
และองค์กรสิ่งแวดล้อมหลายองค์กร ได้หารือจนได้ข้อยุติแล้วว่าจะร่วมกันฟ้องร้องกรมวิชาการเกษตรซึ่งอนุญาตให้มีการต่อทะเบียนพาราควอต"
"และเป็นไปได้ว่าอาจมีการต่อทะเบียนคลอร์ไพริฟอสด้วย
ทั้งๆ ที่กระทรวงสาธารณสุขและคณะทำงาน 4 กระทรวงหลักได้เสนอต่อกรมวิชาการเกษตรให้ยุติการต่อทะเบียนและดำเนินการแบนสารทั้งสองชนิดดังกล่าว"
นางสาวกิ่งกรกล่าว
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/782678